วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ความสัมพันธ์ของสถาปัตยกรรมหริภุญชัยและสถาปัตยกรรมล้านนา

หริภุญไชยเป็นแคว้นที่ขึ้นตรงต่อลวะปุระ (ละโว้) พระนางจามเทวีเป็นกษัตรีพระองค์แรก นำไพร่พลและศาสนา และศิลปวิทยาการต่างๆ เสด็จล่องแพมาทางลำน้ำปิง เมื่อเลยบริเวณสบทาขึ้นมาทางบริเวณด้านใต้ของเมืองที่วางผังสร้างเมืองรอไว้โดยฤาษีวาสุเทพแห่งอุชุปัตตา (ดอยสุเทพ) พระองค์เสด็จขึ้นฝั่งและตั้งค่ายอยู่ริมแม่น้ำกวงที่เป็นหมู่บ้านลัวะ (ละว้า) ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดกู่ลัวะมัก (รมณียาราม) ต.ต้นธง จ.ลำพูน พระนางก่อเจดีย์และสร้างวัดเป็นแห่งแรก ณ ที่นั่น ก่อนดำเนินการทำพิธีต้อนรับเข้าปกครองเมืองหริภุญชัยอย่างเป็นทางการของเหล่าไพร่พลและชาวลัวะพื้นเมืองหริภุญชัยมีพัฒนาการมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๒ มีศิลปวัฒนธรรมเจริญรุ่งเรืองสูงสุด ปรากฏหลักฐานในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ ต่อมาในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๙ พญามังราย กษัตริย์หนุ่มเชื้อสายไทโยน (โยนก) แห่งราชวงศ์ลาว ที่มีลวจังกราชแห่งเมืองหิรัญนครเงินยางเป็นปฐมกษัตริย์ ณ ลุ่มน้ำกก หลังจากทรงสร้างเมืองเชียงรายและเมืองพร้าว พญามังรายได้เข้ายึดเมืองหริภุญชัยในสมัยพญายีบาปกครอง พ.ศ. ๑๘๓๖ และสร้างเวียงกุมกามคร่อมเมืองท่าเก่าริมแม่น้ำปิง ก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นเป็นราชธานีใหม่ ปราบดาภิเษกตั้งขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ต้นราชวงศ์มังราย เมื่อ พ.ศ. ๑๘๓๙ ขณะนั้นแม้ว่าหริภุญไชยจะอยู่ภายใต้การปกครองของล้านนา แต่ยังคงความเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาและศิลปกรรมในที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง พญามังรายยอมรับเอาพระพุทธศาสนาจากหริภุญไชยมานับถือและทำนุบำรุงต่อเนื่อง (ขณะเดียวกันก็เริ่มสัมพันธไมตรีต่อสุโขทัยและภูกามยาว) มีการยอมรับรูปแบบของงานสถาปัตยกรรมหริภุญชัย มาสร้างเป็นสถาปัตยกรรมในยุคนั้น เช่น เจดีย์เหลี่ยมหรือกู่คำ ซึ่งพระองค์โปรดให้สร้างขึ้นที่ เวียงกุมกาม ก่อนจะเสด็จไปสร้างเมืองเชียงใหม่ รูปแบบของเจดีย์กู่คำมีต้นแบบมาจากเจดีย์กู่กุด วัดจามเทวี แม้ในสมัยต่อมายุคพระเจ้าแสนภู พระราชนัดดาพญามังราย ยังมีการสร้างเจดีย์ป่าสัก ที่เมืองเชียงแสน ที่ปรากฏอิทธิพลทางด้านรูปแบบมาจากเจดีย์เชียงยันที่ตั้งอยู่ในเมืองหริภุญชัย ผสมผสานกับศิลปเชียงแสนและพุกาม นอกจากนั้นยังมีรูปแบบเจดีย์แบบทรงพิเศษแบบฐานทรงกลมซ้อนชั้นลดหลั่นคล้ายทรงปราสาท ดังเช่น เจดีย์วัดพวกหงษ์ในเมืองเชียงใหม่ ที่พัฒนาสร้างสรรค์ปรับเปลี่ยนมาจากรูปแบบของเจดีย์กูกุดและเจดีย์คำ (สุวรรณโกฏ) ในเมืองหริภุญชัย ภายหลังเกิดรูปแบบของพัฒนาการเจดีย์ในล้านนาที่งดงามหลากหลาย จนเกิดรูปทรงเจดีย์ล้านนาในยุคทองที่งดงามลงตัวหลายแบบ เช่น เจดีย์ล้านนาทรงกลมบนฐานเหลี่ยมย่อมุมแบบที่วัดพระธาตุหริภุญชัย เจดีย์ทรงเหลี่ยมลดชั้นบนฐานเหลี่ยมย่อมุมแบบพระธาตุดอยสุเทพ และเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมที่วัดเจ็ดยอดในเมืองเชียงใหม่ เป็นต้น ศิลปกรรมพระพุทธรูปได้ส่งอิทธิพลถึงรูปแบบพระพุทธรูปของล้านนาด้วยเช่นกัน เช่น พระพุทธรูปทรงเครื่องแบบละโว้ (เช่น ที่ประดิษฐานในพิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุหริภุญชัย) พระพุทธรูปในรูปแบบพระเจ้าแข้งคม (เช่น ที่วัดศรีเกิด ในเมืองเชียงใหม่) เป็นต้น สิ่งสำคัญอีกประการที่เกิดขึ้นในยุคพญามังรายคือการประดิษอักษรล้านนาขึ้นใช้ โดยพัฒนามาจากอักษรมอญโบราณของหริภุญชัย (นิยมใช้จารลงใบลานและบันทึกลงปั๊บสา) ขณะเดียวกันมีการยอมรับอักษรขอมจากสุโขทัยมาใช้ร่วมด้วย (ใช้ในการจารึกหลักศิลา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น